"ccccc
Wellcome To My Zone

Apple มันคืออะไร


:: รู้จักประวัติกันสักนิด กับ MAC OS X ::

แอปเปิล (Apple Inc.) หรือในชื่อเดิม แอปเปิลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer Inc.) เป็นบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แอปเปิลปฏิวัติคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 ด้วยเครื่องแอปเปิลทู (Apple II) และแมคอินทอช (Macintosh) ในยุค 80 ปัจจุบันแอปเปิลมีชื่อเสียงด้านฮาร์ดแวร์ เช่น ไอแมค ไอพอด ไอโฟน และ ร้านขายเพลงออนไลน์ไอทูนส์ ประวัติโดยย่อ บริษัท Apple Computer Inc. ได้เกิดขึ้นจากการร่วมกันก่อตั้งของ สตีฟ จ็อบส์ และ สตีฟ วอซเนียก ทำการปฏิวัติธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 โดยการนำเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จากโรงรถออกมาขาย ในชื่อ Apple I ที่ราคาจำหน่าย 666.66 เหรียญ ในจำนวนและระยะเวลาจำกัด ภายในปีถัดมาก็ได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดให้กับบริษัท ณ ขณะนั้นคือ Apple II ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งวงการไมโครคอมพิวเตอร์ และเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับไมโครคอมพิวเตอร์ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด (อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว ทางบริษัทจะมุ่งเน้นการขายระบบปฏิบัติการมากกว่าที่จะขายผลิตภัณฑ์ไมโครคอมพิวเตอร์ เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากบริษัท Intel และ IBM ทำงานได้ดีกว่า) ต่อมาในยุค 80 Apple Inc. ได้พัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลถึงยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นตามลำดับ ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ Macintosh ซึ่งยังส่งผลให้ Apple ยังคงมีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยมาตรฐานและเอกลักษณ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับปณิธานองค์กรที่ว่าคิดอย่างแตกต่าง (Think Different)” ผลิตภัณฑ์ที่มักได้รับการกล่าวถึงและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (MacBook, MacBook Pro) และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (iMac, PowerMac) ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Mac OSX (แมคโอเอสเท็น) อุปกรณ์ฟังเพลงขนาดพกพา ได้แก่ สายผลิตภัณฑ์ iPod และ iPhone อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น iSight, AirPort ฯลฯ โปรแกรมและบริการเสริมต่างๆ อาทิ iTunes เป็นต้น เกร็ดอื่นๆ ในภาพยนตร์เรื่อง อัจฉริยะปัญญานิ่ม (Forrest Gump) ฟอร์เรสต์ กัมป์ ถูกชักชวนโดยผู้หมวดแดน ให้เป็นหุ้นส่วนของบริษัทแอปเปิล แต่ตัวฟอร์เรสต์เองนึกว่าหมายถึงแอปเปิลที่เป็นผลไม้
ซึ่งใครๆ หลายคนก็รู้จักและใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft กันอยู่แพร่หลาย จึงจะเคยอ่านของประวัติและความเป็นมา และการพัฒนาของแต่ละเวอร์ชั่น ซึ่งแน่นอนครับ Mac OS X ก็เป็นอีกระบบปฏิบัติการหนึ่งที่เริ่มมีความนิยมและเป็นที่แพร่หลายกันมากขึ้น ซึ่ง Mac OS X นี้ได้มีพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต่างจาก Windows เช่นกัน แต่ความสามารถของ Mac OS X นั้นไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม เท่านั้น แต่ยังมีความเสถียรที่สูงกว่า Windows อีกก็เป็นได้
จากที่กล่าวมานั้นเพื่อนๆ หลายคนก็เริ่มจะพอรู้เรื่องเกี่ยวกับ Mac OS X กันมาบ้างแล้ว ก็ด้วยเพราะว่าทาง Apple ซึ่งเป็นชื่อที่แพร่หลายในยุโรปและบ้านเรา ได้เปิดตัวสินค้าตัวใหม่ที่มีชื่อว่า "iPad" ที่กำลังกระหึ่มและเป็นที่ต้องตาต้องใจของชาว IT ในบ้านเราเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นข่าวของ Apple ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
แต่ในที่นี้เราจะทิ้งเรื่องนั้นไว้ก่อน ซึ่งครั้งนี้เราจะมาพูดถึงประวัติในแต่ละการพัฒนาของเวอร์ชั่น ของระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Mac OS X กันครับ
ก่อนที่เราจะไปเริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการของ Mac นั้น เราก็ควรจะรู้ก่อนว่ามันมีเวอร์ชั่นอะไรบ้าง แล้วเราควรที่จะเลือกใช้ตัวใด ก็เหมือนๆ กับระบบปฏิบัติการของ Windows นั้นแหละครับ ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows Nt, 98, Me, Xp, Vista จนมาถึงล่าสุดนี้คือ Seven แต่มาวันนี้เราจะไม่พูดถึง Windows แต่เราจะมาพูดถึง Mac ถ้าพร้อมกันแล้วแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่า
Mac OS X อ่านว่า แมคโอเอส เทน (ตัว X แทนหมายเลข 10 ของตัวเลขโรมัน) เป็นระบบปฏิบัติการ ของเครื่อง Macintosh ที่ออกแบบมาให้มีเสถียรภาพสูง ใช้งานง่ายหากสังเกตุก็จะพบว่าหน้าจองของ Mac OS X นั้นเกลี้ยงเกลา ไม่มีอะไรให้รกหูรกตา มีปุ่มหรือเครื่องมือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น หน้าจอถึงดูสะอาด เรียบหรู และดูดีครับ

Mac OS X ได้ถูกพัฒนามาหลายเวอร์ชัน โดยเดือนมีนาคมปี 2001 บริษัท Apple ก็ได้เปิดตัว Mac OS X เวอร์ชันแรกออกมา คือ Mac Os X 10.0 โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า Cheetah (ชีต้าร์)
หลังจากที่ Mac OS X 10.0 หรือ Cheetah เวอร์ชันแรกที่เปิดตัวไปไม่นาน ทาง Apple ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อ โดยเดือนกันยายนของปีเดียวกัน ได้ออกเวอร์ชันใหม่ คือ Mac OS X 10.1 หรืออีกชื่อว่า Puma (พรูม่า) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จและผลตอบรับเป็นอย่างดี

ในอีกหนึ่งปีต่อมา ได้เปิดตัว Mac OS X 10.2 หรือ Jaguar (จากัวร์) ก็ได้กำเนิดขึ้นในเดือน สิงหาคม ปี 2002 โดยเวอร์ชันนี้ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติหลายประการ เช่น สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายของ Microsoft ได้ นำเสนอโปรแกรม iChat สำหรับการสื่อสารแบบออนไลน์ ใช้เทคโนโลยี Quartz Extreme สำหรับการแสดงผลบนหน้าจอ ฯลฯ โดยเวอร์ชั่นนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Mac OS X เป็นอย่างมากเลยล่ะครับ

ในเดือนตุลาคม ปี 2003 ทาง Apple ได้เปิดตัว Mac OS X 10.3 หรือ Panther (พาลเทียร์) ซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพหลายอย่าง เช่นการนำเสนอ Expose การปรับปรุง iChat การสื่อสารแบบเห็นหน้าตากันได้ รวมถึงโปรแกรมท่องเว็บอย่าง Safari ฯลฯ

และในเดือนเมษายน ปี 2005 เจ้า Mac OS X 10.4 หรือ Tiger (ไทเกอร์) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว ระบบอัติโนมัติอย่าง Automator ปรับปรุง iChat รวมถึงการเปิดตัว VoiceOver ที่สามารถออกเสียงขณะใช้งานได้

ปี 2007 ได้พบกับระบบปฏิบัติการบน Macintosh ตัวใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า Mac OS X Leopard (ลีโอแพท) โดยการพัฒนาหลายด้าน เช่น การย้อนเวลากลับไปกู้ข้อมูลด้วย Time Machine มีการจัดสรรหน้าจอโดยใช้ Spaces รวมถึงการปรับปรุง iChat ให้สามารถแชร์หน้าจอผ่านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ คาดหมายกันว่า Leopard จะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของ Windows Vista เลยทีเดียว แต่ผลตอบรับของ Windows Vista ก็มีเสียงตอบกลับมาค่อนข้างแย่ ซึ่งทำให้ Leopard สามารถกินขาดได้อย่างสบายๆ
ในปี 2009 เดือนกันยายน Mac OS X ก็ได้เปิดตัว ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นตัวที่ 6 ก็คือ Mac OS X 10.6 หรืออีกชื่อว่า Snow Leopard ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับ Leopard แต่มีการพัฒนาการทำงานหลายอย่าง และคอมพิวเตอร์ เครื่อง Macintosh ก็ได้ใช้ Snow Leopard มาจนถึงทุกวันนี้


10 เหตุผลทำไมต้องใช้ Mac และระบบปฏิบัติการ OS X

1. เปิดเครื่องพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยการที่ Apple มักจะป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นรายแรกอยู่แล้ว ในเรื่องของการเปิดเครื่องพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว หรือตื่นขึ้นมาจาก Sleep ภายใน 2 วินาที เครื่อง Mac นั้นสามารถงานได้อยู่แล้ว โดยหลังจากกดปุ่ม Power ก็ใช้เวลาในการเปิดไม่นานก็พร้อมใช้งานในทันที รวมไปถึงการปิดเครื่องก็ถือว่าทำได้รวดเร็วมากๆ เช่นกัน?

2. ระบบปฏิบัติการมีความเสถียรสูงน่าใช้งาน

Mac OS X ที่อยู่ในตัวเครื่อง Mac นั้น ได้รับการพัฒนามจากระบบปฏิบัติการ Unix จึงมีความเสถียรภาพสูง ซึ่งจากผู้ที่เคยใช้งาน Mac มาบ้าง คงทราบกันเป็นอย่างดีว่าเวลาใช้งานไปนานๆ Mac จะไม่มีอาการเครื่องแฮงค์หรือค้างให้เห็นเลย หรือถ้าจะเกิดขึ้นก็จะนานๆ เป็นที นอกเหนือจากนั้นยังมีการริหารจัดการหน่วยความอย่างแรมได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีหน้าตาของระบบปฏิบัติการที่สวยงาม น่าใช้งาน


3. สะดวกสบายในการเชื่อมต่อ

ทุกวันนี้ในการใช้งานคอมพิวเตอร์เชื่อได้ว่าหลังจากเปิดเครื่องเสร็จ ที่ต้องทำต่อมาคือการเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างแน่นอน ซึ่งในเครื่อง Mac นี้จะช่วยในการเชื่อมต่อเป็นเรื่องที่รวดเร็วกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นหลังการเปิดเครื่อง หรือหลังจากที่ตื่นจาก Sleep เครื่อง Mac จะพร้อมใช้งานในทันที รวมไปถึงในการตั้งค่าเครือข่ายต่างๆ ก็เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าเรานำ Mac ไปใช้งานเครือข่ายที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามร้านกาแฟ ก็สะดวกสบายกับการเชื่อมต่อ

4. ไม่มีไวรัสมาให้รำคาญใจ

นอกเหนือจาก Mac OS X จะเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความเสถียรสูง ยังมีความปลอดภัยด้านระบบการปกป้องเกี่ยวกับมัลแวร์หรือไวรัสอย่างที่เราพบเจอใน Windows ซึ่งการเปลี่ยนแปลงระบบภายใน หรือเปลี่ยนแปลงการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตินั้น Mac OS X นั้น ค่อนข้างที่จะเข็มงวด ต่างจาก Windows ที่พัฒนาจาระบบเดิมอยู่เสมอ จึงไม่ได้เน้นความปลอดภัยเท่าที่ควร อีกทั้งในส่วนของคนที่เขียนไวรัสขึ้นมานั้น นิยมเขียนให้กับ Windows ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปมากกว่า?


5. เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย

ระบบปฏิบัติการ Mac OS X นั้นถือได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญของเครื่อง Mac และได้ถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้งานได้ง่าย อาทิ หน้าจอ Desktop ได้ถูกออกแบบมาให้มีไอคอนน้อยที่สุด ในส่วนของหน้าจอหลักของการใช้งานจึงไม่ดูรกรุงรัง แต่ก็ถือได้ว่ามีความสะดวกสบายในการใช้งานอยู่ สำหรับการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ก็เพียงแค่ลากไอคอนโปรแกรมไปยัง Finder ของ Application ที่ต้องการ และถ้าต้องการลบโปรแกรมเมื่อไหร่ ก็เพียงลากไปไว้ที่ถึงขยะแค่นั้น ส่วนในการค้นหาไฟล์ต่างๆ เพียงแต่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงไปในช่องค้นหา ก็จะปรากฏผลลัพธ์ในเวลาที่เรียกว่าไม่ต้องรอเลย

6. โปรแกรมที่แถมติดมาให้มีคุณภาพสูง

i’Life?โปรแกรมที่ทาง Apple แถมมาให้พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mac OS X ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโปรแกรมฟรีทั้งหมดที่เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน แถมยังมีคุณภาพในการใช้งานที่สูง ไม่จำเป็นต้องไปหาโปรแกรมอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมอย่างใน Windows เลย สำหรับตัวอย่างโปรแกรมที่อยู่ใน i’Life จะมี อาทิ โปรแกรม iTunes สำหรับการใช้ฟังเพลง โปรแกรม iPhoto ไว้จัดการภาพถ่ายพร้อมตกแต่งได้เล็กน้อย โปรแกรม iMovie ใช้ในการตัดต่อวีดีโอเบื้องต้น โปรแกรม Safari สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นโปรแกรมส่วนมากของ Mac สามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ ในอินเตอร์เน็ต

7. การดีไซน์ออกแบบตัวเครื่องมีความล้ำสมัย

เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบและเห็นหันดีอยู่แล้ว จากการออกแบบตัวเครื่อง Mac และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่าง iPhone, iPod และ iPad ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำในโลกของสินค้าไอที โดยเรียกได้ว่าเน้นดีไซน์การออกแบบที่สวยงามเป็นหลัก สามารถใช้งานเป็นเฟอนิเจอร์เพื่อประดับในที่ทำงานหรือภายในบ้านได้อย่างสบายๆ อีกทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งเมื่อเราพกพาไปใช้งานข้างนอก คนอื่นที่มองผ่านๆ ก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นเครื่อง Mac ทันที

8. งานประกอบเรียบร้อยใช้วัสดุคุณภาพสูง

Apple ได้สรรค์หาวัสดุคุณภาพสูงมาเป็นส่วนประกอบใน Mac ตั้งแต่หน้าจอที่ใช้หน้าจอคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่หาได้ยากในคอมพิวเตอร์ทั่วไป โครงสร้างตัวเครื่องขึ้นรูปด้วยโลหะอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน ตลอดจนคีย์บอร์ด ที่ชาร์จอย่าง Macsafe และฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ที่ใช้ในเครื่อง Mac ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ของเกรด A แทบทุกๆ ชิ้นส่วน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ จากการไปลองสัมผัสและจับเล่นที่ร้านดู

9. มีการเข้ากันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยสมบูรณ์?

ด้วยการที่ Apple นั้นเป็นคนที่ออกแบบทั้งในส่วนของตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการด้วยตนเองเพียงรายเดียวทั้งหมด ดังนั้นในเรื่องของการเข้ากันได้ของอุปกรณ์จึงไม่มีปัญหาแม้แต่น้อยเลย มีการทำงานได้อย่างลงตัวเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเข้าขึ้นสมบูรณ์แบบทีเดียว ทำให้ Mac ได้รับการยอมรับจากเหล่ามืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพช่างวีดีโอ นักกราฟฟิก แน่นอนว่าแตกต่างจากคอมพิวเตอร์หลายแบรนด์ ที่ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ต่างแยกกันผลิต ซึ่งทำให้การติดตั้งและใช้งานต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ศึกษาอยู่พอมควร?

10. สามารถเลือกใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ได้

ในการที่เราใช้เครื่อง Mac นั้นแน่นอนว่าระบบปฏิบัติการของเราจะต้องเป็น Mac OS X แต่หากใครจำเป็นต้องการใช้งาน Windows ก็ยังสามารถติดตั้งเพิ่มเติมลงไปใน Mac ได้ โดยเราสามารถติดตั้งผ่านโปรแกรม Boot Camp ของ Apple เอง ซึ่งสามารถเลือกบูตใช้งานจาก Mac ได้ขณะที่เราเปิดเครื่อง และยังใช้งานได้อย่างสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นไดร์วเวอร์หรือปุ่มคีย์ลัดต่างๆ หรือถ้าหากใครต้องการใช้งานเล็กน้อย ก็ยังสามารถติดตั้ง Windows ผ่านโปรแกรมจำลองระบบต่างๆ อย่าง VM Ware หรือ Parallels Desktop ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น